ฮาโลวีน อิแทวอน กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก สำหรับเหตุการณ์เหยียบกันตายนับร้อย ที่ย่าน “อิแทวอน” สถานที่ท่องราตรีชื่อดังแห่งหนึ่งในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ หลังเกิดเหตุผู้คนจำนวนมาก แห่ไปเที่ยวเทศกาลฮาโลวีนในคืนวันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม เป็นงานฮาโลวีนปีแรก ที่รัฐบาลยอมผ่อนคลายให้ผู้ร่วมงานไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัย หลังจากต้องเข้มงวดเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 มาเป็นปีๆ คาดกันว่า ในคืนเกิดเหตุมีผู้คนไปรวมตัวกันอยู่ที่ย่านอิแทวอนมากถึงราว 100,000 คน
ฮาโลวีน อิแทวอน สาเหตุและพยานหลักฐาน
ฮาโลวีน อิแทวอน ตามแหล่งข่าวต่าง ๆ เหตุการณ์เริ่มขึ้นประมาณ 22:20 น. ของวันที่ 29 ตุลาคมในซอยถัดจากโรงแรมแฮมิลตัน มีลักษณะเป็นเนิน เป็นที่ๆ มีผู้คนมากมาย ไม่มีใครกระดิกตัวได้ จู่ๆ ก็มีคนล้มลง คนที่ตามมาก็ล้มทับกัน ผู้เห็นเหตุการณ์เรียกว่า “โดมิโน” เป็นเหมือนน้ำตกของ
เงื่อนไขที่จะเกิดขึ้นคือ ถูกคนข้างล่าง บดขยี้ บดขยี้ ขยายวงกว้างไปเรื่อยๆ ขณะที่มีรายงานคนด้านข้างพยายามปีนเข้าไปในร้านที่อยู่ติดกัน หลายคนถูกการ์ดของร้านผลักออกไป ตามคลิปที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียต่างๆ ห้ามเข้า
ที่สุดแล้ว กว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้ ก็กินเวลาไปเกือบชั่วโมง ภาพที่ปรากฏสู่สายตาชาวโลกในคืนวันนั้น คือการที่ทั้งเจ้าหน้าที่และผู้คนทั่วไปพยายามทำซีพีอาร์ ช่วยเหลือผู้คนที่หมดสติจำนวนมาก ท่ามกลางกระแสข่าวการเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากในคืนนั้น
คืนวันที่ 29 ตุลาคม 2565 จึงกลายเป็นคืนแห่งโศกนาฏกรรมที่ร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งในเกาหลีใต้ หลังจากยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นทะลุร้อย และทะยานขึ้นต่อเนื่อง ขณะที่ยอดผู้สูญหายเองก็ไม่นิ่ง ทะลุพันขึ้นไปเช่นกัน
ขณะที่ทางการเกาหลีใต้ กำลังพยายามหาต้นตอที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมใหญ่ครั้งนี้ กระแสข่าวลือเกี่ยวกับสาเหตุของการเหยียบกันตาย ก็มีมาหลากหลาย แรกเริ่มของกระแสข่าวนั้น ปรากฏว่ามีรายงานว่า เกิดจากไฟไหม้ ที่กลายเป็นจุดเริ่มต้นของความโกลาหล จนผู้คนต้องพากันวิ่งหนีออกจากที่เกิดเหตุให้ได้ ก่อนที่จะมีรายงานอีกว่า จริงๆ แล้วคือเกิดจากก๊าซรั่ว
ประกาศ ทางการเกาหลีใต้ออกมายืนยันว่า ไม่ได้เกิดไฟไหม้ หรือก๊าซรั่วแต่อย่างใด
จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ มีรายงานที่อ้างถึงการเปิดเผยของหนึ่งในผู้รอดชีวิตจากอิแทวอน มีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งบ่นว่าแออัด ที่นั่นเขาสนับสนุนให้พันธมิตรรวมตัวกันเพื่อพัฒนาประชาชน ค่อยๆเดินจากฝูงเดิมผลักคนเสียการทรงตัวล้มทับกันยกใหญ่ จนเกิดภัยพิบัติ
ในฝั่งของกระทรวงมหาดไทยเกาหลีใต้เอง. ผู้รับผิดชอบดูแลการรักษาความปลอดภัยได้รับแจ้งว่าในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงโซลและหลายคนได้รับคำสั่งให้ดูแลจัตุรัสควางฮวามุน เนื่องจากคาดว่าจะเกิดการปะทะกันทั่วกรุงโซลและตำรวจเองก็ไม่คาดคิด ผู้คนมากมายรวมตัวกันที่อิแทวอน
ตามรายงานของสื่อเกาหลี มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเพียง 137 คนในเทศกาลฮัลโลวีนของอิแทวอน! ด้วยความช่วยเหลือที่ล่าช้าและเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนน้อยมากในการจัดการกับสถานการณ์ ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการดำเนินการของรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชน
อย่างไรก็ตาม ยุน ฮี-กึน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเกาหลีใต้ ออกแถลงการณ์ยอมรับว่า การควบคุมฝูงชนต่อเหตุการณ์ยังไม่เพียงพอและยอมรับในคืนนั้น ตำรวจได้รับแจ้งหลายครั้งเกี่ยวกับสถานการณ์ที่วุ่นวายในอิแทวอน มันไม่ใช่ คร่าชีวิตไปมากมาย
ขณะเดียวกัน รัฐมนตรีและผู้นำเกาหลีใต้แสดงความเสียใจและเสียใจต่อโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้น และจะพยายามหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก อย่างไรก็ตาม การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ในอิแทวอนนี้จะยากที่จะลืมเลือนจากความทรงจำของผู้คนไปอีกนาน
การรับมือของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ และปฏิกิริยาของทั้งโลก ไว้ดังนี้
- ‘อิแทวอน’ (Itaewon, 이태원) คือย่านท่องเที่ยวยอดฮิตใจกลางกรุงโซล เป็นแหล่งท่องเที่ยวกลางคืน ที่มีผับบาร์ ร้านอาหาร และร้านขายของจำนวนมาก ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวท้องถิ่น และที่สำคัญ คือนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังไม่รวมถึงทหารสหรัฐฯ ที่มาจากฐานทัพใกล้เคียงในเขตยงซาน
- คืนวานนี้ (29 ตุลาคม) เป็นคืนแรกของการเฉลิมฉลองเทศกาลฮาโลวีน ที่ผู้คนจะมารวมตัวกันที่ย่านอิแทวอนนี้ ซึ่งนับว่าเป็นงานเทศกาลครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดหลังจากที่เกาหลีใต้เริ่มผ่อนคลายมาตรการ COVID-19 โดยมีรายงานว่า มีนักท่องเที่ยวเข้าร่วมถึงประมาณ 100,000 คน
- แต่เมื่อคนจำนวนล้นหลาม มากระจุกอยู่ที่ซอยแคบๆ ข้างๆ โรงแรมแฮมิลตัน (Hamilton Hotel) ซึ่งปกติ ซอยดังกล่าวมีความกว้างเพียงพอแค่ผู้ใหญ่ 4-5 คนเท่านั้น สุดท้ายก็พบว่า มีการเบียดกันจนกลายเป็นโศกนาฏกรรม เจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ระบุว่า เริ่มมีการโทรขอความช่วยเหลือตั้งแต่ 22.15 น. ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะทยอยมาถึงในไม่กี่นาทีต่อมา ในวิดีโอที่มีการเผยแพร่กันในโลกออนไลน์ จะเห็นว่า ในช่วงแรก ฝูงชนขนาดมหาศาลต้องติดชะงักอยู่ในซอยแคบๆ ดังกล่าว ขณะที่บางส่วนส่งเสียงกรีดร้อง หรือกระทั่งปีนกำแพงเพื่อหลีกหนีความแออัด ส่วนวิดีโอในช่วงหลังของเหตุการณ์ จะพบว่ามีคนหมดสติเป็นจำนวนมาก โดยมีเจ้าหน้าที่กำลังช่วยเหลือด้วยการทำ CPR ขณะที่ในบริเวณรอบนอก ก็มีรถพยาบาลและรถดับเพลิงจอดอยู่เรียงราย
- ‘เจสซี่’ เจ้าของบัญชี TikTok ‘Jessiinkorea’ หญิงไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว เล่าว่า เธอเป็นนักท่องเที่ยวที่นั่งอยู่ในร้านตรงสามแยกที่เกิดเหตุพอดี ซึ่งกว่าจะไปถึงที่ร้าน ก็ต้อง ‘ตะเกียกตะกาย’ อยู่เหมือนกัน แต่พอได้เข้าไปนั่งเพียงครู่เดียว ก็เริ่มมี ‘เสียงกรี๊ด’
“หันไปดูคือ คนล้มไปแล้ว ล้มๆๆ เป็นโดมิโน่ไปเลย” เธอเล่า “ที่มันผวาก็คือ ฉันนั่งอยู่มุมสามแยก แล้วเป็นขอบสามแยกเลย ทุกคนตะเกียกตะกายขึ้นมาต่อหน้าฉัน ข้างๆ ฉันเลย แล้วฉันทำอะไรไม่ได้ ยามก็มาเหวี่ยงออกๆ ไม่ให้คนเข้ามาในบริเวณร้านนี้ ไม่ให้คนเข้ามาขอบโต๊ะนี้ ฉันก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะฉันก็ออกไปไม่ได้เหมือนกัน - คล้ายคลึงกับ เนิร์ส—ลักษมิกา ดีปราศรัย มิสมิโมซ่าควีนไทยแลนด์ 2019 และอีกหนึ่งคนไทยในเหตุการณ์ ที่เล่ากับช่องไทยพีบีเอสว่า ในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ประมาณ 22.00 น. ตนซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างกลุ่มคนทั้งสองฝั่งซึ่งดันกันไปกันมา ต้องรับแรงปะทะของทั้งสองฝั่ง
“ซึ่งมันเบียดมาก และช่วงระหว่างซอย มันจะคล้ายๆ กับเนินเขา พอเป็นเนินเขา ถ้าเกิดมีใครสักคนล้ม ก็จะล้มกันหมด ทำให้เกิดการกดทับกัน และทำให้หายใจไม่ออก และเสียชีวิต บางคนถูกเบียดอยู่ในช่วงที่เนิร์สอยู่ ก็ล้ม และขาดอากาศหายใจ ทำให้เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของหลายๆ คน”